กรุงเทพฯ (สนามบินดอนเมือง) - อุดรธานี - หนองคาย - เวียงจันทน์ - ประตูซัย - พระธาตุหลวง - หอพระแก้ว - นั่งรถไฟความเร็วสูง - หลวงพระบาง - ตลาดมืด
04.00 น.
คณะพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง อาคาร 2 ผู้โดยสารขาออกในประเทศ บริเวณเคาน์เตอร์เช็คอินสายการบิน ไทยไลออนแอร์ (Thai Lion Air) หรือ นกแอร์ (Nok Air) เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯคอยให้การต้อนรับ และอำนวยความสะดวกในการเช็คอินรับบัตรโดยสาร **หมายเหตุ** เคาน์เตอร์เช็คอินจะปิดบริการก่อนเวลาเครื่องออกอย่างน้อย 60 นาที
และผู้โดยสารพร้อม ณ ประตูขึ้นเครื่องก่อนเวลาเครื่องออก 30 นาที เนื่องจากตั๋วเครื่องบินของคณะเป็นระบบ Random ไม่สามารถล็อกที่นั่งได้ ที่นั่งอาจจะไม่ได้นั่งติดกัน และไม่สามารถเลือกช่วงที่นั่งบนเครื่องบินได้ในคณะ ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขสายการบิน หากท่านต้องการระบุที่นั่ง มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม โปรดสอบถามพนักงานขาย
06.05 น.
ออกเดินทางบินลัดฟ้าสู่ อุดรธานี โดย สายการบิน ไทยไลออนแอร์ (Thai Lion Air) เที่ยวบินที่ SL600 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 5 นาที ไม่มีบริการอาหาร และเครื่องดื่ม หรือ นกแอร์ (Nok Air) เที่ยวบินที่ DD300 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 5 นาที (07.50-09.00 น.) ไม่มีบริการอาหารและเครื่องดื่ม*ขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนสายการบิน ในกรณีที่มีการยกเลิกเที่ยวบิน,การเปลี่ยนแปลงเวลาเดินทางของเที่ยวบิน หรือจำนวนที่นั่งไม่เพียงพอ*
07.10 น.
เดินทางถึง สนามบินอุดรธานี ให้ท่านรับสัมภาระให้เรียบร้อย ไกด์นำเที่ยวรอท่านอยู่ด้านนอกที่จุดนัดพบ จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ด่านพรมแดนไทย-ลาว จังหวัดหนองคาย นำท่านเดินทางสู่ นครหลวงเวียงจันทน์ นำท่านชม ประตูซัย ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของนครเวียงจันทน์บนถนนล้านช้าง จะไปสิ้นสุดที่บริเวณประตูชัย สร้างเสร็จในปี พ.ศ.2512
เป็นอนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึงประชาชนชาวลาว ที่สละชีวิตในสงครามก่อนหน้าการปฏิวัติพรรคคอมมิวนิสต์ ประตูชัยมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า รัยเวย์แนวตั้ง เพราะการก่อสร้างนี้ใช้ปูนซีเมนส์จากประเทศอเมริกา ที่ซื้อมาเพื่อสร้างสนามบินใหม่ในเวียงจันทน์ ในระหว่างสงครามอินโดจีน แต่พ่ายเสียก่อน จึงได้นำมาสร้างประตูชัยแทนเป็นสถาปัตยกรรม ที่ผสมผสานศิลปะล้านช้างกับฝรั่งเศสเข้าด้วยกันอย่างงดงาม และกลมกลืนอย่างยิ่ง
กลางวัน
บริการอาหารกลางวัน
บ่าย
จากนั้นนำท่านชม พระธาตุหลวง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประตูชัย เป็นสัญลักษณ์ประจำชาติลาว มีความหมายต่อจิตใจของประชาชนชาวลาวอย่างใหญ่หลวง แทนถึงความเป็นเอกราช และอำนาจอธิปไตยของลาวสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 เป็นเจดีย์ที่มีลักษณะโดดเด่นที่สุดในอาณาจักรล้านช้าง เป็นการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมในพระพุทธศาสนา กับสถาปัตยกรรมของอาณาจักรมีลักษณะคล้ายป้อมปราการ มีการก่อสร้างระเบียงสูงใหญ่ขึ้นโอบล้อมองค์พระธาตุไว้
พร้อมกับทำช่องหน้าต่างเล็กๆ เอาไว้โดยตลอด ประตูทางเข้าเป็นบานประตูไม้ใหญ่ลงรักสีแดงรอบๆ องค์พระธาตุยังมีเจดีย์บริวารล้อมอยู่โดยรอบ จากนั้นนำท่านชม หอพระแก้ว สร้างขึ้น เมื่อปี พ.ศ.2108 โดยพระเชษฐาธิราชกษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านช้าง เป็นวัดหลวงประจำราชวงศ์ และใช้เป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต จากนั้นได้อัญเชิญมาที่ประเทศไทย
ปัจจุบันพระแก้วมรกต ที่ประดิษฐานอยู่ในวัดพระแก้ว ประเทศไทย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่สถานีรถไฟความเร็วสูง เส้นทางรถไฟลาว-จีนมีทั้งหมด 32 สถานีทั้งสถานีรับส่งผู้โดยสาร และสถานีขนส่งสินค้า ในส่วนของประเทศลาวได้เปิดรับส่งผู้โดยสารแล้ว 6 สถานี ได้แก่ บ่อเต็น , เมืองไซ , หลวงพระบาง , วังเวียง , โพนฮง และนครหลวงเวียงจันทน์
16.05 น.
นำท่านสัมผัสบรรยากาศนั่งรถไฟความเร็วสูง นำท่านออกเดินทางสู่ หลวงพระบาง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง เนื่องจากตั๋วรถไฟของคณะเป็นระบบ Random ไม่สามารถล็อกที่นั่งได้ ที่นั่งอาจจะไม่ได้นั่งติดกัน และไม่สามารถเลือกช่วงที่นั่งบนรถไฟได้ในคณะ
18.00 น.
เดินทางถึง สถานีรถไฟความเร็วสูง หลวงพระบาง จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองหลวงพระบาง
เย็น
บริการอาหารเย็น
หลังอาหารค่ำอิสระเดินเที่ยวชม ตลาดมืด (NIGHT MARKET) บนถนนศรีสว่างวงศ์ ตั้งแต่หน้าพระราชวังจนสุดถนน ให้ท่านได้เลือกชมเลือกซื้อสินค้าในบรรยากาศแบบหลวงพระบางยามราตรี มีทั้งเสื้อยืดสกรีนเป็นภาษาลาว , ผ้าคลุมไหล่ , กระเป๋าถือ , เครื่องประดับ , โลหะเกะสลัก , ภาพเขียน ฯลฯ จุดเด่นคือ สินค้าแทบทุกชิ้นเป็นสินค้าแฮนด์เมดของชาวบ้านแท้ๆ วางจำหน่ายในราคาที่ต่อรองกันได้
ที่พัก
Sunway Hotel ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า , เมืองหลวงพระบาง
ตักบาตรข้าวเหนียว - ตลาดเช้า - พระราชวังหลวงพระบาง - น้ำตกตาดกวางสี - วัดเชียงทอง - วัดวิชุนราช (พระธาตุหมากโม) - วัดใหม่สุวรรณมาราม - พระธาตุพูสี - นั่งรถไฟความเร็วสูง - วังเวียง
05.30 น.
ตื่นเช้าทำธุระส่วนตัว จัดแจงเครื่องแต่งกายเพื่อรอ ใส่บาตรข้าวเหนียว พร้อมกับประชาชนชาวหลวพระบาง ซึ่งพระสงฆ์และสามเณรจากวัดต่างๆ ทั่วเมืองหลวงพระบางจะออกมาบิณฑบาตเป็นแถวนับร้อยรูป ซึ่งเป็นภาพอันน่าประทับใจ และสื่อถึงความศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาของชาวเมืองหลวงพระบาง (ค่าทำบุญของใส่บาตร ไม่รวมในรายการ)
จากนั้นอิสระให้ท่านเดินชม ตลาดเช้าของชาวหลวงพระบาง ซึ่งเป็นตลาดสด ให้ท่านเลือกซื้ออาหารพื้นเมือง และชมของป่าซึ่งของป่าบางชนิดก็แปลกตา และเป็นที่สนใจของเหล่านักท่องเที่ยวผู้มาเยือน
เช้า
บริการอาหารเช้า
นำท่านชม พระราชวังหลวงพระบาง (พิพิธภัณฑ์) ลักษณะอาคารเก่า ที่ออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส สถาปัตยกรรมฝรั่งเศสผสมผสานวัฒนธรรมลาว ด้านนอกอาคารเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ พระราชวังแห่งนี้อดีตนั้น เป็นที่ประทับของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ต่อมาเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ. 2518 พระราชวังหลวงพระบาง ได้ถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นพิพิธภัณฑ์ ภายในเป็นที่ประดิษฐานของ “พระบาง” พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองหลวงพระบาง
นำท่านชม ศูนย์เครื่องเงิน ให้ท่านได้ชมงานฝีมือการทำเครื่องเงิน และเครื่องประดับของใช้ต่างๆ ที่มีการออกแบบไว้อย่างสวยงามเป็นสินค้าส่งออกที่มีชื่อเสียงของลาว จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ น้ำตกตาดกวางสี น้ำตกที่มีชื่อเสียง และสวยที่สุดของเมืองหลวงพระบาง ซึ่ง ตาด ในภาษาลาวแปลว่า น้ำตก มีจำนวนชั้นทั้งหมด 4 ชั้น เป็นผา และธารน้ำในสีเขียวมรกต มีความสูงโดยรวมประมาณ 70 เมตร เป็นน้ำตกหินปูน ซึ่งบางจุดของชั้นน้ำตก นักท่องเที่ยวสามารถลงไปเล่นน้ำได้ นับเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม ไม่ควรพลาดเมื่อไปเยือนหลวงพระบาง
กลางวัน
บริการอาหารกลางวัน
บ่าย
จากนั้นนำท่านสู่ วัดเชียงทอง ซึ่งเป็นวัดที่สำคัญ และมีความงดงามที่สุดแห่งหนึ่ง จนได้รับการยกย่องจากนักโบราณคดีว่า เป็นดั่งอัญมณีแห่งสถาปัตยกรรมลาว วัดเชียงทองถูกสร้างขึ้นในรัชสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ผนังภายในปิดทองฉลุบนพื้นรักสีดำ เล่าเรื่องพุทธประวัติพระสุธน-มโนราห์ ทศชาติชาดก และภาพนิทานเพื่อนบ้าน พระประธานมีชื่อว่า “พระองค์หลวง”นอกจากวัดเชียงทองจะมีพระอุโบสถที่โดดเด่น ด้วยสถาปัตยกรรมแบบล้านช้างแล้ว การตกแต่งลวดลายตามผนังภายใน มีการตบแต่งด้วยการนำกระจกสีมาตัดต่อกันเป็นรูปต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ ด้านข้างก็ติดเป็นรูปสัตว์ในวรรคดี ยามบ่ายที่แสงแดดส่องสะท้อนลงมาดูสวยงาม
สถานที่ที่เราจะไปเยี่ยมชมอีกที่ซึ่งมีความสำคัญ และเรื่องราวยาวนานเช่นเดียวกันคือ วัดวิชุนราช ที่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าวิชุนราช (พ.ศ. 2046) นับเป็นอีกหนึ่งพระธาตุที่ชาวหลวงพระบางให้ความนับถือ ซึ่งเป็นพระธาตุที่มีรูปทรงคล้ายกับลูกแตงโมผ่าครึ่ง ชาวหลวงพระบาง จึงเรียกชื่อ พระธาตุหมากโม นี้มาจนถึงปัจจุบัน จากนั้นนำท่านชม วัดใหม่สุวรรณภูมาราม หรือที่ชาวหลวงพระบางเรียกกันสั้นๆ ว่า "วัดใหม่" เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชบุญทัน
ซึ่งเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์สุดท้ายของลาว และยังเคยเป็นที่ประดิษฐานพระบาง พระพุทธรูปคู่เมืองหลวงพระบางในรัชสมัยของเจ้ามหาชีวิตสักรินฤทธิ์ จนกระทั่งถึงปี พ.ศ. 2437 จึงได้อัญเชิญพระบางไปประดิษฐานในหอพระบางภายในพระราชวังจวบจนกระทั่งปัจจุบัน เมื่อมาเยือนวัดแห่งนี้สิ่งที่เราจะสังเกตเห็นถึงความแตกต่างจากวัดอื่นๆ คือ ตัวอุโบสถ (สิม) ลักษณะจะเป็นอาคารทรงโรง หลังคามีขนาดใหญ่ มีชายคาปกคลุมทั้งสี่ด้านสองระดับต่อเนื่องกัน
ผนังด้านหน้าพระอุโบสถ ตกแต่งด้วยภาพลงรักปิดทองดูเหลืองอร่ามงามตายาวตลอดผนัง เล่าเรื่องพระเวสสันดรชาดก โดยฝีมือช่างหลวงประจำรัชกาลเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ การจากนั้นนำท่านขึ้นสู่ เขาพูสี นมัสการ พระธาตุพูสี เจดีย์ธาตุคู่บ้านคู่เมืองของชาวหลวงพระบาง ตลอดทางขึ้นท่านจะได้รับความกลิ่นหอมจากดอกจำปาลาว (ดอกลีลาวดี) ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำชาติลาว สามารถมองเห็นวิวหลวงพระบางได้โดยรอบ และยังเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดินอันสวยงาม ซึ่งเป็นบรรยากาศที่พลาดไม่ได้เมื่อได้มาเยือนหลวงพระบาง จากนั้นนำท่านเดินทางสู่สถานีรถไฟความเร็วสูง เส้นทางรถไฟลาว-จีน
18.30 น.
นำท่านออกเดินทางสู่ วังเวียง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง เนื่องจากตั๋วรถไฟของคณะเป็นระบบ Random ไม่สามารถล็อกที่นั่งได้ ที่นั่งอาจจะไม่ได้นั่งติดกัน และไม่สามารถเลือกช่วงที่นั่งบนรถไฟได้ในคณะ
19.20 น.
เดินทางถึง สถานีรถไฟความเร็วสูงวังเวียง เมืองในลุ่มน้ำซองที่เงียบสงบ โอบล้อมไปด้วยขุนเขากับสายหมอกยามเช้าที่สวยที่สุด ดังคำล่ำลือที่นักท่องเที่ยวขนานนามว่า กุ้ยหลินเมืองลาว จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พัก
เย็น
บริการอาหารเย็น
ที่พัก
Vilaivong Hotel ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า , เมืองวังเวียง
วังเวียง - ล่องแม่น้ำซอง - บลูลากูน - เวียงจันทน์ - หนองคาย - สนามบินอุดรธานี - ดอนเมือง (กรุงเทพฯ)
เช้า
บริการอาหารเช้า
จากนั้นนำท่าน ล่องเรือแม่น้ำซอง ชมธรรมชาติ และเก็บภาพบรรยากาศ ทัศนียภาพอันงดงามที่รายล้อมเมืองนั้น เป็นที่ราบที่ถูกขนาบด้วยภูเขาหินปูนน้อยใหญ่ ที่รู้จักในฉายา “กุ้ยหลินเมืองลาว” สร้างความประทับใจแก่ผู้มาเยือน
จากนั้นนำท่านชม บลูลากูน (Blue Lagoon) สระน้ำสีฟ้าใสที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเกิดจากภูเขาหินปูน ซ่อนตัวอยู่ในขุนเขา และธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ของเมืองวังเวียง จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เวียงจันทน์ จากนั้นนำท่านสู่ด่านชายแดนลาว-ไทย ให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้านานาชนิดให้เลือกซื้อเป็นของฝาก อิสระอาหารเที่ยง สมควรแก่เวลาจากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ฝั่งประเทศไทย เพื่อเดินทางสู่สนามบินอุดรธานี
18.35 น.
ออกเดินทางบินลัดฟ้ากลับสู่ สนามบินดอนเมือง กรุงเทพฯ โดย สายการบิน ไทยไลออนแอร์ (Thai Lion Air) เที่ยวบินที่ SL611 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที ไม่มีบริการอาหาร และเครื่องดื่ม หรือนกแอร์ (Nok Air) เที่ยวบินที่ DD309 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ( 19.00-20.00 น.) ไม่มีบริการอาหาร และเครื่องดื่ม *ขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนสายการบิน ในกรณีที่มีการยกเลิกเที่ยวบิน , การเปลี่ยนแปลงเวลาเดินทางของเที่ยวบิน หรือจำนวนที่นั่งไม่เพียงพอ*
19.45 น.
เดินทางถึง สนามบินดอนเมือง โดยสวัสดิภาพ พร้อมด้วยความประทับใจ