หลายๆ คน อยากจะเดินทางไปเที่ยวประเทศที่จำเป็นต้องทำวีซ่า แต่มีความกลัวที่จะยื่นวีซ่า บางคนยื่นเอง บางคนยื่นผ่านตัวแทนเอเจนซี่ บางคนให้ญาติให้เพื่อนทำ แต่ไม่ว่าจะให้ใครทำผ่านช่องทางไหน ยังไงก็ต้องยื่นเอกสารเดียวกัน เหตุผลหลักๆ ที่คนกลัวที่จะทำวีซ่า คือ เรื่องอาชีพ หน้าที่ การงาน และ การเงิน
ดังนั้น “คนทำงานประจำจะทำง่ายกว่า ส่วนคนเป็นฟรีแลนซ์อาจจะยากสักหน่อย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า อาชีพฟรีแลนซ์จะยื่นวีซ่าไม่ได้ ไม่ต้องกังวลไปค่ะ” จริงๆ กฏการยื่นวีซ่า หัวใจสำคัญหลักๆ มีไม่กี่ข้อนะคะ ถ้าเราเข้าใจ การทำวีซ่าก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปแล้ว
ขอยกกรณีตัวอย่าง สมมุติถ้าอยากจะไปเที่ยว 4 ประเทศ คือ ประเทศเยอรมัน สวิสเซอร์แลนด์ อิตาลี และ ฝรั่งเศส ตั้งแต่วันที่ 6-20 December 2022 ทั้งหมด 15 วัน
สิ่งที่ต้องพิจารณา คือ
1. ควรมีเงินในบัญชีเท่าไหร่
อันนี้ขอออกตัวก่อนว่า ไม่ใช่ข้อมูลที่แน่นอนนะคะ เป็นเพียงการวิเคราะห์ ประเมินจากประสบการณ์ที่ผ่านมาของเรา กับการรับยื่นวีซ่ามานานแล้วกว่า 8 ปีนะคะ ควรมีเงินใช้จ่ายเฉลี่ยต่อวันในประเทศนั้นๆ ไม่ควรน้อยกว่าวันละ 5-7,000 บาท/ต่อวันที่ไป เช่น ไป 15 วัน x 7,000 บาท ตีเลขกลมๆ ก็ควรมีไม่ต่ำกว่า 110,000 บาทค่ะ
โดยจะต้องเป็นบัญชีที่มีเงินเข้าต่อเนื่อง ไม่ใช่อยู่ดีๆ โอนเงินก้อนใหญ่เข้าไปใส่ในบัญชีทีเดียวนะคะ เช่น โอนมาเลย 1 แสนบาท แล้วเอาไปยื่นวีซ่า เจ้าหน้าที่เค้าจะมองว่า เหมือนเราไปยืมคนอื่นมายื่นวีซ่า และห้ามมีรายการติดลบในบัญชีด้วยนะคะ คือการเอาบัญชีที่เป็น OD ไปยื่น ดังนั้นยอดจะมีติดลบบ้างบางเดือน อันนี้ไม่ได้เลย เพราะแม้จะเงินจะเข้าเดือนเป็นแสนเป็นล้าน แต่ผลวีซ่าที่ออกมา กลับไม่ผ่านซะงั้น
2. เรื่องอาชีพ หน้าที่ การงาน
2.1 สำหรับคนที่มีงานประจำทำ
บอกเลยอันนี้ง่ายสุด ผลการพิจารณาเร็วด้วย ให้ไปขอหนังสือรับรองการทำงาน (เป็นภาษาอังกฤษนะ) โดยในจดหมาย ต้องระบุ 3 ส่วน ดังนี้
- 2.1.1 วันที่เริ่มต้นลางาน และวันสิ้นสุดลางาน รวมวันลาทั้งหมดกี่วัน เช่น ลาตั้งแต่วันที่ 6-20 December 2022 รวมเป็นจำนวน 15 วัน
- 2.2.2 จะกลับมาทำงานวันที่เท่าไหร่ ต้องระบุด้วย เช่น จะกลับมาทำงานวันที่ 21 December 2022
2.2 เป็นฟรีแลนซ์ต้องยื่นยังไง
คนเป็นฟรีแลนซ์จะต้องมี “เอกสารรับรองตนเอง” ที่เป็นภาษาอังกฤษ ที่สามารถอธิบายอาชีพที่ทำ และแหล่งที่มาของรายได้ และ “เอกสารรับรองที่มาของเงิน” หรือก็คือพวกหลักฐานการจ่ายค่าจ้าง, สัญญาจ้าง กับปริ้น statement ไปยืนยันเหมือนกู้แบงก์เลย หลักสำคัญคือต้องทำให้เขาเชื่อว่าเรารับงานจากที่ไหน และได้รับค่าตอบแทนมาจริงๆ
สิ่งที่ประกันเดินทางที่ดี และเหมาะในการยื่นขอวีซ่า
ข้อกำหนดตามเว็บเขียนไว้ว่าประกันเดินทางที่เราซื้อ จะต้องประกอบด้วยรายละเอียดดังต่อไปนี้ นะคะ
- ชื่อบุคคลที่เอาประกันคุ้มครอง ต้องตรงกับ passport และ ช่วงเวลาที่คุ้มครอง (ครอบคลุมตั้งแต่ออกเดินทางจากประเทศไทย และ กลับมาถึงประเทศไทยอีกครั้ง)
- ค่ารักษาพยาบาลจะต้องมียอดครอบคลุมไม่น้อยกว่า 30,000 ยูโร หรือ ประมาณ 1.5 ล้านบาท
- ประกันดังกล่าวจะต้องครอบคลุมการเดินทาง (ยุโรป ต้องครอบคลุมทุกประเทศในกลุ่มเช้งเก้น)
- ประกันจะต้องครอบคุลมระยะเวลาการพักอาศัยในแถบเช้งเก้น (ตามที่ระบุไว้ในบัตรโดยสารเดินทาง)
- ต้องอยู่ในลิสต์ที่ได้รับการรับรอง จากสถานทูต
สำหรับท่านไหนสนใจทำประกัน เราก็มีนะคะ ครอบคลุมทุกประเด็นที่แจ้งมาค่ะ โดยท่านสามารถออกกรมธรรม์ได้ด้วยตัวเอง ง่ายๆ เพียง 2 step เท่านั้น คลิกลิ้งค์ --> http://aga24h.allianz-assistance.co.th/online/regis.php?AgeCode=KHFTZ1524H&slang=en
3. ต้องยื่นวีซ่าเชงเก้นที่ประเทศไหน
กฎของเชงเก้น คิดง่ายแบบนี้นะคะ
- กฎข้อที่ 1. ให้ยื่นขอวีซ่ากับประเทศที่เราอยู่นานที่สุด
- หรือ กฎข้อที่ 2. ถ้าทั้งสองประเทศอยู่นานเท่ากัน ให้ยื่นประเทศที่เราไปถึงก่อนเป็นประเทศแรกค่ะ
ขอยกตัวอย่าง กฎข้อแรก
สมมุติถ้าอยากจะไปเที่ยว 4 ประเทศ คือ ประเทศเยอรมัน สวิสเซอร์แลนด์ อิตาลี และ ฝรั่งเศส ตั้งแต่วันที่ 6-20 December 2022 ทั้งหมด 15 วัน เยอรมัน 3 วัน, สวิสเซอร์แลนด์ 5 วัน, อิตาลี 3 วัน, และ ฝรั่งเศส 4 วัน, เราต้องไปยื่นวีซ่าผ่านสถานทูตสวิสฯค่ะ เพราะเข้าเงื่อนไขของกฎข้อที่ 1 คืออยู่ประเทศสวิสฯ นานที่สุด ถึงแม้ขาไปจะบินลงเยอรมันก่อนก็ตาม แต่ด้วยจำนวนวันที่อยู่สวิสฯ นานที่สุด ดังนั้นจึงต้องยื่นที่สถานทูตสวิสฯค่ะ
กรณียื่น กฎข้อที่ 2
สมมุติถ้าอยากจะไปเที่ยว 4 ประเทศ คือ ประเทศเยอรมัน สวิสเซอร์แลนด์ อิตาลี และ ฝรั่งเศส ตั้งแต่วันที่ 6-20 December 2022 ทั้งหมด 15 วัน เยอรมัน 4 วัน, สวิสเซอร์แลนด์ 4 วัน, อิตาลี 4 วัน, และ ฝรั่งเศส 3 วัน เราต้องไปยื่นวีซ่าผ่านสถานทูตเยอรมันค่ะ เพราะเข้าเงื่อนไขของกฎข้อที่ 2 คือ จำนวนวันเท่ากันทั้ง 3 ประเทศ แต่เยอรมันเป็นประเทศแรกที่เราไปถึง ดังนั้นต้องยื่นวีซ่าที่สถานทูตเยอรมันค่ะ
เห็นมั้ยค่ะ การยื่นวีซ่าเช้งเก้นไม่ยากอย่างที่คิดเลยใช่มั้ยค่ะ เมื่อรู้แล้วว่าจะต้องยื่นวีซ่าที่สถานทูตไหน ประเทศใด อีก 1 สิ่งที่สำคัญในการยื่นวีซ่า นั่นก็คือ เอกสารส่วนตัวที่จะต้องใช้ในการประกอบการพิจารณาต่างๆ มีดังนี้ค่ะ
- ใบสมัครขอวีซ่าพำนักระยะสั้น ระบุวันที่ และลงนามโดยผู้สมัคร (ฉบับจริง) (Visa application form)
- หนังสือเดินทาง (Passport เล่มจริง + สำเนา)
- รูปถ่ายสี หน้าตรง จำนวน 2 รูป
- ถ้าเคยเดินทางไปประเทศอื่นๆ หรือ ในกลุ่มเชงเก้น ให้ส่งสำเนาของหน้าที่มีเชงเก้นวีซ่า หรือตราประทับเข้าออกประเทศต่างๆ ด้วยค่ะ
- หนังสือเดินทางเล่มเก่า (เล่มจริง+สำเนา)
- เอกสารการจองตั๋วเครื่องบินแบบไป – กลับ : เริ่มตั้งแต่วันเดินทางออกจากไทย จนกลับถึงประเทศไทย
- ประกันการเดินทาง ออกโดยบริษัทประกันที่ได้รับการรับรอง และ วันเอาประกัน ต้องครอบคลุมวันเดินทางตั้งแต่วันแรกที่ออกจากไทย จนกลับถึงประเทศไทยอีกครั้ง
- หนังสือรับรองการทำงาน (ฉบับจริง)
- สลิปเงินเดือน 6 เดือนย้อนหลัง (สำเนา)
- สำเนารายการเดินบัญชีของบริษัทย้อนหลัง 6 เดือน
- รายการเดินบัญชีออมทรัพย์ครอบคลุมระยะเวลา 6 เดือนล่าสุดของผู้สมัคร พร้อมทั้งหนังสือรับรองการเป็นเจ้าของบัญชีจากธนาคาร
- ถ้าให้เอกสารแน่นไปอีกนิด ต้องเพิ่มแบงค์การันตีเข้าไปค่ะ (Bank Guarantee)
- แผนการเที่ยวตลอดการเดินทาง
- ใบจองที่พักทุกคืน ทุกๆ ประเทศที่จะเดินทางไปทั้งทริป